เฉียวฟง
เฉียวฟงหรือเซียวฟงเป็นบุตรของเซียวหย่วนซันชาวซิตัน ตอนยังเป็นทารกบิดามารดาถูกจอมยุทธ์กลุ่มหนึ่งดักทำร้ายจนเสียชีวิต จากการยุยงของกุฟุมู่หยงเปาะ ต่อมาถูกชาวฮั่นที่เป็นผู้ฆ่าบิดามารดาตัวเองซึ่งก็คือประมุขพรรคกระยาจกและเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน นำมาให้ชาวบ้านเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ในช่วงอายุแปดปี ได้มีวาสนาพบพานกับเสียนขู่ไต้ซือ และรับเฉียวฟงไปเป็นศิษย์ฝึกวรยุทธ์ที่วัดเส้าหลิน เมื่อเฉียวฟงเติบโตขึ้นได้อายุเพียงยี่สิบสามปี เฉียวฟงฝึกวรยุทธ์จนกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในยุทธภพ ประกอบวีรกรรมห้าวหาญสร้างชื่อเสียงให้พรรคกระยาจก จึงได้รับการถ่ายทอดเพลงไม้เท้าตีสุนัขจากอวงเกี่ยมทง และรับการสืบทอดตำแหน่งประมุขพรรคกระยาจก ซึ่งเฉียวฟงได้ทำหน้าที่ประมุขพรรคกระยาจกเป็นเวลาแปดปี สร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิให้แก่พรรคกระยาจกเป็นที่ระบือลือลั่นทั่วแผ่นดิน
เฉียวฟงมีรอยสักรูปหัวหมาป่าที่กลางหน้าอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวเมืองซิตัน หรือเมืองเหลียว และนั่นทำให้เขามีสายเลือดของนักสู้อยู่เต็มเปี่ยมในตัว ในยามที่เขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เขาจะมีพลังแฝงเพิ่มขึ้นมาเสมอ เรียกว่าศัตรูเข้มแข็งเขายิ่งเข้มแข็งกว่า นับเป็นยอดคนโดยแท้จริง
แต่เฉียวฟงเป็นตัวละครแห่งโศกนาฏกรรม เมื่อความจริงเรื่องชาติกำเนิดถูกเปิดเผย กระแสความคิดชาตินิยม และการปลุกปั่นวางแผนของผู้อาวุโสในพรรคฯหลายคน ทำให้เฉียวฟงถูกขับออกจากพรรค ถูกใส่ร้ายป้ายสี จนกลายเป็นศัตรูของคนทั่วทั้งยุทธภพ แต่ยังโชคดีที่มีอาจูอยู่เคียงข้างในยามที่ท้อแท้ แต่ทว่าเพราะความแค้นทำให้เขากับอาจูอยู่ด้วยกันเพียงระยะเวลาไม่นาน...
เฉียวฟงได้ร่วมสาบานกับซีจุ๊ และต้วนอี้ ภายหลังเฉียวฟงยังสาบานเป็นพี่น้องกับฮ่องเต้ซิตัน และห้ามสงครามระหว่างเมืองเหลียวเผ่าของตน กับเมืองซ่ง ที่เป็นถิ่นเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่ ด้วยการต่อรองกับฮ่องเต้ซิตัน ซึ่งด้วยความที่ตนมีสายเลือดของซิตันถือว่าหมิ่นเบื้องสูง กอปกับด้วยความคิดถึงอาจูจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ปิดฉากตำนานนักสู้ผู้ไม่เคยพ่าย
วรยุทธของเฉียวฟง
เฉียวฟงเป็นผู้นำพรรคใหญ่อันดับหนึ่งแห่งยุค นั่นคือการดำรงค์ตำแหน่งในฐานะประมุขพรรคกระยาจก ซึ่งในยุคนั้นพรรคกระยาจกถือเป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน แตกฉานวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร และเพลงไม้เท้าตีสุนัข ส่วนวิชาอื่นๆก็มี หมัดยาวของไท้โจ้ว
เฉียวฟงเป็นผู้ใช้วิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ได้อานุภาพร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
0 comments:
Post a Comment