twitterfacebookgoogle pluslinkedinrss feedemail
//*****************************************************************// //*****************************************************************// //*****************************************************************//

Tuesday, July 30, 2013

8เทพอสูรมังกรฟ้า



8เทพอสูรมังกรฟ้า

แปดเทพอสูรมังกรฟ้า (จีนแต้จิ๋ว: เทียนเล้งโป๊ยโป๋ว ; จีนกลาง: 天龍八部เทียนหลงปาปู้ ; อังกฤษ: Demi-Gods and Semi-Devils) เป็นนิยายกำลังภายในของกิมย้ง จำลอง พิศนาคะ แปลเรื่องนี้ในชื่อ มังกรหยก ภาคพิเศษ เพื่อให้เข้าชุดกับมังกรหยก แต่ชื่อที่เป็นที่รู้จักมากกว่าคือ แปดเทพอสูรมังกรฟ้าซึ่งเป็นฉบับแปลของ น. นพรัตน์ ซึ่งเรื่องนี้ความจริงน่าจะเรียกว่ามังกรหยกภาค 1 มากกว่าเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวก่อนยุคของก้วยเจ๋งซึ่งเป็นตัวเอกในมังกรหยกภาค 1
"แปดเทพอสูรมังกรฟ้า" เป็นผลงานลำดับที่ 11 ของกิมย้ง นับตั้งแต่ชื่อเรื่อง และที่มาของแรงบันดาลใจ แสดงความใฝ่ใจในพุทธศาสนาของเขา ชื่อภาษาจีน "เทียนหลงปาปู้" หมายถึง เทพและอมนุษย์ 8 จำพวก ในตำนานของพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์เฉพาะตนแตกต่างกันไป ประกอบด้วย
  1. เทพ เป็นผู้มีบุญกุศล อาศัยอยู่ในสวรรค์ที่พรั่งพร้อม และอิ่มทิพย์ ทว่า ยังไม่อาจละกิเลสจากโลกียสุข เช่น ยังอยากได้หญิงงามของอสูร เป็นต้น
  2. อสูร เป็นอมนุษย์ในภพภูมิที่หยาบกว่าเทพ หากเป็นชายจะสุดอัปลักษณ์ หากเป็นหญิงจะมีรูปโฉมสะคราญ อสูรมักทำสงครามกับเทพบ่อยครั้ง เพราะต่างริษยาในกันและกัน อสูรอยากได้สวรรค์และความอิ่มทิพย์ของเทพ เทพอยากได้นางงามและภักษาหารรสโอชาของอสูร ต่างสัประยุทธ์กันจนฟ้าดินปั่นป่วน
  3. มังกร หรือนาค เป็นผู้สืบทอดพิทักษ์ศาสนา เปรียบกับพระชั้นผู้ใหญ่ หรืออุปถัมภกคนสำคัญ
  4. ครุฑ เป็นนกที่ยิ่งใหญ่ เมื่อกางปีกออกจะครอบคลุมดินฟ้าสามแสนหกหมื่นลี้ และมีฤทธิ์มาก สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้แผ่นดินและจักรวาลได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ในหนึ่งวัน ต้องกินมังกร 1 ตัว และลูกมังกร 500 ตัวเป็นอาหาร มักกล่าวกันว่า วีรบุรุษคนสำคัญคือครุฑมาเกิด
  5. ยักษ์ เป็นภูตประเภทหนึ่ง อยู่ระหว่างพรมแดนของเทพ อสูร และมนุษย์ มีความแข็งแรง คล่องแคล่ว เป็นกำลังที่เคลื่อนไหวได้ทั้งดีและชั่ว บางยักษ์ช่วยคุ้มครองมนุษย์ บางยักษ์ชอบจับมนุษย์กิน
  6. คนธรรพ์ เป็นเทพมังสวิรัติ ไม่แตะต้องเนื้อสัตว์สุรา แต่หลงใหลในความงามและกลิ่นหอม ส่วนตนมีฉายาและกลิ่นหอมชวนให้ผู้คนลุ่มหลง ทั้งยังแปลงกายเปลี่ยนรูปได้สุดหยั่งคะเน
  7. กินนร เป็นเทพที่ชอบร้องรำทำเพลง และสร้างสีสันสำราญใจให้แก่ชาวสวรรค์
  8. มโหราค เป็นอมนุษย์ชั้นต่ำต้อยที่สุด บ้างมีลำตัวเป็นมนุษย์ ศีรษะเป็นงู บ้างมีลำตัวเป็นงู ศีรษะเป็นมนุษย์ มีฤทธิ์มาก แต่ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวด้วยนัก
เทพอสูร 8 เหล่าในความเปรียบทางธรรม ยังหมายถึง ความเปิดกว้างโดยเมตตาของพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่ว่าเผ่าพันธุ์วรรณะใด ล้วนมีสิทธิที่จะสดับฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า สามารถแสวงหาความเข้าใจ ความหลุดพ้นจากทุกข์ และบรรลุธรรมได้โดยเสมอภาคกัน
กิมย้งเขียนเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้าในปี พ.ศ. 2506-2510 และปรับปรุงพิมพ์เป็นเล่มในปี พ.ศ. 2521 ฉบับภาษาไทย จำลอง พิศนาคะ แปลสำนวนแรกในปี พ.ศ. 2522 ใช้ชื่อว่า "มังกรหยกภาคพิเศษ" แต่เนื้อหาและเหตุการณ์ตามท้องเรื่องไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมังกรหยกทั้ง 3 ภาคเลย ฉากหลังเป็นประวัติศาสตร์ช่วงก่อนมังกรหยกภาคแรกประมาณ 100 ปี
ก่อนหน้านั้น ราชวงศ์ซ้อง (ซ่ง) ดำเนินนโยบายลิดรอนอำนาจขุนศึก และนิยมลัทธิขงจื๊อใหม่ กำลังของส่วนกลางจึงไม่เข้มแข็งนัก ช่วงเวลาตามท้องเรื่องแปดเทพอสูรมังกรฟ้า แผ่นดินจีนแบ่งออกเป็น 5 อาณาจักร ของหลายชนเผ่า
ตรงกลางคือต้าซ้องของชาวฮั่น ด้านเหนือคือต้าเหลียวของชาวชี่ตัน ด้านใต้คือต้าหลี่ ด้านตะวันตกเฉียงเหนือคือซีเซี่ย และด้านตะวันตกเฉียงใต้คือถู่ฝาน ต่างฝ่ายต่างอยากกลืนอาณาจักรอื่น และอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้วอย่างเยี่ยน ก็มีคนคิดฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ศึกสงครามจึงไม่สงบโดยง่าย

ตัวละครมีมาก เรื่องราวก็ซับซ้อน กิมย้งใช้วิธีเล่าถึงทีละคน ทีละเหตุการณ์ ไล่เรียงกันไป หากอุปมาเทพอสูร 8 เหล่า เป็นตัวละครต่างๆ อาจเปรียบได้ว่า
  1. เทพ คือ ต้วนเจิ้งหมิง-ฮ่องเต้ต้าหลี่ ต้วนเจิ้งฉุน-อ๋องต้าหลี่ และ เยลุกี-ฮ่องเต้ต้าเหลียว เป็นผู้มีบุญบารมี แต่ยังไม่อาจละวาสนาติดพัน เช่น ต้วนเจิ้งหมิงไม่อาจละพันธะที่ผิดต่อต้วนเหยียนชิ่ง ต้วนเจิ้งฉุนไม่อาจละหญิงงามได้สักนาง และเยลุกีก็อยากรุกรานแผ่นดินต้าซ้อง
  2. อสูร คือ ต้วนเหยียนชิ่ง-ผู้ถูกตัดสิทธิ์ในบัลลังก์ต้าหลี่อย่างไม่เป็นธรรม มู่หยงป๋อกับมู่หยงฟู่-บุตรชาย ยึดมั่นกับอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้ว จึงสร้างเวรก่อกรรมเพื่อทวงคืนสิ่งนั้น
  3. มังกร คือ เจ้าอาวาสวัดเทียนหลง ซึ่งชักนำต้วนเจิ้งหมิงให้สละบัลลังก์ใฝ่หาความสงบทางธรรม หรือเสียนขู่ไต้ซือแห่งวัดเส้าหลิน สมณะผู้สั่งสอนวิทยายุทธ์และปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เฉียวฟง และอู๋หมิงไต้ซือ ช่วยคลี่คลายความแค้นระหว่างเซียวหยวนซานกับมู่หยงป๋อ
  4. ครุฑ คือ เฉียวฟง-ยอดคนผู้ยิ่งใหญ่และรันทด
  5. ยักษ์ คือ เหล่าจอมยุทธ์ฝีมือร้ายกาจ บ้างดี บ้างร้าย บ้างทั้งดีและร้าย อย่างบรรดาชาวยุทธ์ที่บางครั้งถูกปลุกปั่นให้ทำร้ายคนบริสุทธิ์ด้วยความเข้าใจผิด
  6. คนธรรพ์ คือ ต้วนอี้-ผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เพียงหลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เหมือนกับซีจุ๊-หลวงจีนที่ทำผิดวินัยสงฆ์โดยไม่ตั้งใจ ต่อมาได้เป็นราชบุตรเขยของอาณาจักรซี่เซี่ย
  7. กินนร คือ เหล่านางงามของต้วนเจิ้งฉุน และบุตรสาวทั้งหลายของเขา ซึ่งงามหยดย้อย แต่ชีวิตเป็นทุกข์นัก เพราะต่างไม่อาจครองรักไว้คนเดียว
  8. มโหราค คือ โหยวตั้นจือ เป็นคนมีฝีมือ แต่น่าสงสารที่สุด เพราะขาดปัญญาชี้นำที่ถูกต้อง เขาหลงใหลในสตรีนางหนึ่ง แต่นางกลับทำลายใบหน้าของเขาจนอัปลักษณ์ และเอาเปรียบโดยตลอด

เฉียวฟง



เฉียวฟง


เฉียวฟงหรือเซียวฟงเป็นบุตรของเซียวหย่วนซันชาวซิตัน ตอนยังเป็นทารกบิดามารดาถูกจอมยุทธ์กลุ่มหนึ่งดักทำร้ายจนเสียชีวิต จากการยุยงของกุฟุมู่หยงเปาะ ต่อมาถูกชาวฮั่นที่เป็นผู้ฆ่าบิดามารดาตัวเองซึ่งก็คือประมุขพรรคกระยาจกและเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน นำมาให้ชาวบ้านเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ในช่วงอายุแปดปี ได้มีวาสนาพบพานกับเสียนขู่ไต้ซือ และรับเฉียวฟงไปเป็นศิษย์ฝึกวรยุทธ์ที่วัดเส้าหลิน เมื่อเฉียวฟงเติบโตขึ้นได้อายุเพียงยี่สิบสามปี เฉียวฟงฝึกวรยุทธ์จนกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในยุทธภพ ประกอบวีรกรรมห้าวหาญสร้างชื่อเสียงให้พรรคกระยาจก จึงได้รับการถ่ายทอดเพลงไม้เท้าตีสุนัขจากอวงเกี่ยมทง และรับการสืบทอดตำแหน่งประมุขพรรคกระยาจก ซึ่งเฉียวฟงได้ทำหน้าที่ประมุขพรรคกระยาจกเป็นเวลาแปดปี สร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิให้แก่พรรคกระยาจกเป็นที่ระบือลือลั่นทั่วแผ่นดิน
เฉียวฟงมีรอยสักรูปหัวหมาป่าที่กลางหน้าอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวเมืองซิตัน หรือเมืองเหลียว และนั่นทำให้เขามีสายเลือดของนักสู้อยู่เต็มเปี่ยมในตัว ในยามที่เขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เขาจะมีพลังแฝงเพิ่มขึ้นมาเสมอ เรียกว่าศัตรูเข้มแข็งเขายิ่งเข้มแข็งกว่า นับเป็นยอดคนโดยแท้จริง
แต่เฉียวฟงเป็นตัวละครแห่งโศกนาฏกรรม เมื่อความจริงเรื่องชาติกำเนิดถูกเปิดเผย กระแสความคิดชาตินิยม และการปลุกปั่นวางแผนของผู้อาวุโสในพรรคฯหลายคน ทำให้เฉียวฟงถูกขับออกจากพรรค ถูกใส่ร้ายป้ายสี จนกลายเป็นศัตรูของคนทั่วทั้งยุทธภพ แต่ยังโชคดีที่มีอาจูอยู่เคียงข้างในยามที่ท้อแท้ แต่ทว่าเพราะความแค้นทำให้เขากับอาจูอยู่ด้วยกันเพียงระยะเวลาไม่นาน...
เฉียวฟงได้ร่วมสาบานกับซีจุ๊ และต้วนอี้ ภายหลังเฉียวฟงยังสาบานเป็นพี่น้องกับฮ่องเต้ซิตัน และห้ามสงครามระหว่างเมืองเหลียวเผ่าของตน กับเมืองซ่ง ที่เป็นถิ่นเลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่ ด้วยการต่อรองกับฮ่องเต้ซิตัน ซึ่งด้วยความที่ตนมีสายเลือดของซิตันถือว่าหมิ่นเบื้องสูง กอปกับด้วยความคิดถึงอาจูจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ปิดฉากตำนานนักสู้ผู้ไม่เคยพ่าย

วรยุทธของเฉียวฟง

เฉียวฟงเป็นผู้นำพรรคใหญ่อันดับหนึ่งแห่งยุค นั่นคือการดำรงค์ตำแหน่งในฐานะประมุขพรรคกระยาจก ซึ่งในยุคนั้นพรรคกระยาจกถือเป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน แตกฉานวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร และเพลงไม้เท้าตีสุนัข ส่วนวิชาอื่นๆก็มี หมัดยาวของไท้โจ้ว

เฉียวฟงเป็นผู้ใช้วิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร ได้อานุภาพร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

Monday, July 2, 2012

ก๊วยเจ๋ง 郭靖






ก๊วยเจ๋ง (อังกฤษ: Guo Jing ; จีน: 郭靖; เสียชีวิต 31 มกราคม ค.ศ. 1273) เป็นตัวละครเอกในนิยายกำลังภายในของกิมย้งเรื่องมังกรหยก และมีบทบาทในมังกรหยก ภาค 2
ก๊วยเจ๋งเป็น 1 ในห้ายอดฝีมือยุคที่ 2 มีฉายาว่า"จอมยุทธอุดร" แทนที่ยาจกอุดรอ้งฉิกกงและเป็นพี่น้องรวมสบานกับจิวแป๊ะทงอีกด้วย พ่อของก๊วยเจ๋งถูกสังหารตั้งแต่เขายังเป็นทารกในครรภ์ ทำให้แม่ของเขาพาหนีขึ้นเหนือ ก๊วยเจ๋งได้รับการเลี้ยงดูจากเผ่ามองโกล และมีเพื่อนในวัยเด็กเป็นลูกชายของเจงกีส ข่านที่มีนามว่า เซลุย 

หลังจากนั้นก๊วยเจ๋งได้รับคำสั่งของอาจารย์ให้เดินทางเข้าสู่ยุทธจักร และได้พบกับอึ้งย้ง ก๊วยเจ๋งเป็นศิษย์ของเจ็ดประหลาดแห่งกังหนำรับคำแนะนำด้านกำลังภายในจากเบ๊เง็ก และได้รับสืบทอดวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร จากประมุขพรรคกระยาจก อั้งฉิกกง ด้วยความช่วยเหลือของอึ้งย้ง รวมถึงรับการถ่ายทอดวิชาคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง วิชาสองมือขัดแย้ง และวิชาว่างเวิ้งว้างจากเฒ่าทารกจิวแป๊ะทง ในการประลองกับอ้าวเอี้ยงโคกที่เกาะดอกท้อก๊วยเจ๋งได้เอ่ยเนื้อหาในคัมภีร์เก้าอิมจินเกงออกมาโดยครบถ้วน โดยไม่ทราบมาก่อนเลยว่านั่นเป็นคำในคัมภีร์ ทำให้อึ้งเอี๊ยะซือคิดว่าภรรยาของตนดลบรรดาลช่วยเลือกก๊วยเจ๋งให้เป็นลูกเขย ครั้งนั้นทำให้อึ้งเอี๊ยะซือยอมรับก๊วยเจ๋งในฐานะบุตรเขย


ในมังกรหยก ภาค 2 ทั้งสองคนได้แต่งงานกันและมีลูก 3 คน คือ ก๊วยพู๊ ก๊วยพั่วลู่และก๊วยเซียง ก๊วยเจ๋งยังได้รับเอี้ยก้วย ลูกชายของเอี้ยคังน้องร่วมสาบานซึ่งเป็นศัตรูในมังกรหยกภาคแรกมาเลี้ยงดูด้วย
ก๊วยเจ๋งมีชื่อเสียงในด้านวิชาฝีมือ แต่ก็มีชื่อในทางลบด้านปัญญาทึบด้วยเช่นกัน เขาเป็นคนซื่อและมีจิตใจดี มีเมตตา

อึ้งเอี๊ยะซือ 黄药师





อึ้งเอี๊ยะซือ (จีน: 黄药师) เป็นบิดาของอึ้งย้ง เป็นประมุขเกาะดอกท้อ และเป็น 1 ในห้ายอดฝีมือ มีฉายาว่า มารบูรพา (บางฉบับแปลใช้คำว่า ภูตบูรพา) เป็นบุคคลเฉลียวฉลาดไม่ว่าจะบุ๋นหรือบู๊ สุขุมรอบคอบ แต่บางครั้งอารมณ์ก็แปรปรวนไม่คงที่ เกลียดขนบประเพณีโบราณคร่ำครึ อึ้งเอี๊ยะซือมีฝีมือในด้านกระบี่ ดนตรี หมากรุก หนังสือ ภาพวาด การแพทย์ และค่ายกล วรยุทธของมารบูรพานับว่า พิสดารและหาได้ยาก ได้แก่ ฝ่ามือเทพกระบี่สยบผู้กล้า เพลงกระบี่ขลุ่ยหยกมังกรทะยาน ฝ่ามือปัดจุดกล้วยไม้ เพลงเตะพายุรวบใบไม้ และ ยอดวิชานิ้วดีด(ดรรชนีเส่งคุณ) ที่เทียบได้กับดรรนีเอกสุริยันของตระกูลต้วน อึ้งเอี๊ยะซือมักทำตัวลึกลับ ไปมาไร้ร่องรอย ไม่ค่อยปรากฏตัวง่ายๆ หากจำเป็นต้องแสดงตัวจะสวมหน้ากากปิดบังหน้าตาที่แท้จริงไว้ อึ้งเอี๊ยะซือเป็นคนที่แก้ค่ายกลเจ็ดดาวที่เฮ้งเต็งเอี้ยงคิดค้นไว้ได้สำเร็จ ตอนที่รับมือกับก๊วยเจ๋งและเหล่านักพรตช้วนจิน
ความรักที่มีต่อภรรยาที่ตายจากไปเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่เขายึดติด บุคลิกของก๊วยเจ๋งทั้งซื่อทั้งทึ่ทำให้เขาไม่ค่อยชอบ แต่ภายหลังได้พบเอี้ยก้วยที่มีลักษณะ คล้ายกับตนเอง (ธรรมะมีธรรม 7 ส่วน, อธรรมมีธรรมะ 7 ส่วน) ส่งผลให้คบหาเป็นสหายต่างวัย
ขณะที่การสู้รบป้องกันเมืองเซียงเอี๊ยงดำเนินอยู่ ชาวตงง้วนอาศัยเขาเป็นผู้นำขบวนในค่ายกลกลุ่มดาว 28 กลุ่ม ช่วยเหลือก๊วยเซียงได้สำเร็จและขับไล่มองโกลได้อีกด้วย

ลูกศิษย์ของอึ้งเอี๊ยะซือ



 เค็กเล้งฮวง 曲灵风 วิชาตัวเบาสูงส่ง ฝ่ามืออากาศร้ายกาจยิ่ง เป็นศิษย์คนโตหลังจากที่ถูกไล่จากเกาะดอกท้อก็ไปเป็นเจ้าของร้านสุราที่หมู่บ้านงู้แกชึง หมู่บ้านของพ่อและแม่ของก๊วยเจ๋งและเอี้ยคังภายหลังโดนองครักษ์วังหลวงสังหารที่ห้องลับของร้านตัวเองโดยในห้องลับยังมีของมีค่ามากมายที่เค็กเล้งฮวงไปขโมยมาจากวังหลวงเพื่อเป็นของขวัญแก่อาจารย์ในจำนวนนั้นมีภาพที่ซ่อนแผนที่ของตำราพิชัยสงครามของงักฮุย

  • ตั้งเฮี้ยงฮวง 陈玄风 ลมทมิฬคู่พิฆาต ฉายา ศพทองแดง มีเนื้อกระดูกเหล็ก ฟันแทงไม่เข้า เป็นคนรักของบ๊วยเถียวฮวงเป็นคนต้นคิดที่จะโขมยคัมภีร์เก้าอิมสุดท้ายกลับถูกก๊วยเจ๋งแทงที่สะดือซึ่งเป็นจุดอ่อนตายที่มองโกล





  • บ๊วยเถี่ยวฮวง 梅超风 ลมทมิฬคู่พิฆาต ฉายา ศพเหล็ก ไปมาดั่งลม ลงมือรวดเร็ว เป็นที่รักและเอ็นดูของอาจารย์โดนอึ้งเอี๊ยะซือช่วยมาจากเงื้อมมือของเจ้าของบ้านที่โหดร้ายแห่งหนึ่ง ถูกเจ็ดประหลาดกังหนำทำร้ายจนตายบอด สุดท้ายยอมตายแทนอาจารย์โดยขวางเข้าไปรับฝ่ามือของอาวเอี๊ยงฮง




  • เล็กเซ่งฮวง 陆乘风 เก่งกาจเรื่องค่ายคู ประตูกล เจ้าของหมู่ตึกเมฆกลับในทะเลสาบไท่โอ่ว ก่อตั้งเป็นกองโจรสลัดที่ปล้นคนเลวช่วยคนยากมีลูกชายหนึ่งคนชื่อ เล็กอ่วงเอ็ง ภายหลังหมู่ตึกเมฆกลับถูกไฟไหม้ เล็กเซ่งฮวงหายสาบสูญไป
  • บู๊เม้งฮวง 武眠风 หลังจากออกจากสำนักก็ชวนชาวยุทธ์ไปจับกุมตั้งเฮี้ยงฮวงและบ๊วยเถี่ยวฮวงเพื่อหวังชิงคัมภีร์เก้าอิมไปคืนให้อาจารย์ แต่สุดท้ายเสียชีวิตในเหตุการณ์นี่
  • ปั้งมิกฮวง 冯默风 หลังออกมาจากสำนักก็ไปเป็นช่างตีเหล็ก แล้วถูกมองโกลต้อนไปเป็นช่างตีเหล้กในกองทัพสุดท้ายต้องตายเพราะช่วย ก๊วยเจ๋งและเอี้ยก่วยตอนที่ทั้ง2ไปช่วย2พี่น้องตระกลูบู๊ลูกของบู๊ซำทงที่ถูกมองโกลจับตัวไป ปังมิกอวงเห็นเหตุการณ์ก็เข้าไปช่วยทั้งที่ตัวเองไม่รู้จักกับก๊วยเจ๋งเลย
หลังจากตั้งเฮี้ยงฮวงและบ๊วยเถี่ยวฮวงขโมยคัมภีร์เก้าอิมและหนีออกจากเกาะดอกท้อ อึ้งเอี๊ยะซือโกรธมากจนไปลงที่  ศิษย์คนอื่นโดยหักขาศิษย์ที่เหลือแล้วขับออกจากเกาะดอกท้อ

  • เที้ยเอ็ง หลานของเล็กลิบเตี้ยและเล็กเตียงง้วน อึ้งเอี๊ยะซือช่วยมาจากตอนที่ลี้มกโช้วจะฆ่านางกับลูกพี่ลูกน้องนางชื่อ เล็กบ้อซัง เที้ยเอ็งโดนอึ้งเอี๊ยะซือช่วยไปและรับเป็นศิษย์ ส่วนเล้กบ้อซังโดนลี้มกโช้วชิงตัวไป

หลานศิษย์ของอึ้งเอี๊ยะซือ

  • ส่าโกว ลูกสาวเค็กเล้งฮวง เป็นคนสติไม่เต็มหลังจากเจอกับอึ้งเอี๊ยะซือได้รับการถ่ายทอดวิชามากมายแต่เรียนไม่ได้มากเพราะค่อนข้างโง่งมนั่นเอง สุดท้ายอึ้งเอี๊ยะซือ ได้คิด 3 ท่าใหม่พิเศษสำหรับนางโดยเฉพาะ นางใช้สู้กับลี้มกโช้วแต่ใช้แค่ 3 ท่านี้ก็พอสู้กับลี้มกโช้วได้
  • เล็กอ่วงเอ็ง ลูกชายของเล็กเซ่งฮวงโดนอึ้งเอี๊ยะซือจัดพีธีแต่งงานกับสาวที่เจอหน้าแค่ครั้งเดียวเองที่ร้านสุราร้างแต่ก็เต็มใจเพราะสาวนั้นน่ารักชื่อเที้อเอี้ยวเกีย



สำนักฉวนเจิน(ช้วนจินก่า)


สำนัก ฉวนเจิน(ช้วนจินก่า)




รายชื่อเจ้าสำนัก

เฮ้งเตงเอี้ยง         หรือฉายา "กลางอิทธิฤทธิ์" ถูกเอ่ยชื่อถึงใน มังกรหยก
เบ๊เง็ก                    ฉายา "จ้าวสุริยัน" ปรากฏตัวใน มังกรหยก 1
คูชู่กี                     สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักจากเบ๊เง็ก ในมังกรหยก 2


*****************************


7 ศิษย์ช้วนจินก่า

          มีปรากฏว่าเป็นเรื่องจริงที่บันทึกไว้ในหนังสือ ซื้อปิ้ง(วิพากษ์คำร้อยกรอง) ในสำนักช้วนจินก่า มีบุคคลเด่นล้ำทั้งสิ้น 7 คน คือ ช้วนจินฉิกจื้อ หรือ เจ็ดผู้ล้วนจริง ประกอบไปด้วย นักพรตทั้ง 7 แห่งนิกายช้วนจินก่า ซึ่งเป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดฝีมือจากเฮ้งเต็งเอี้ยงคือ
  • เบ้เง็ก        ฉายา ตั้งเอี้ยงจื้อ - เจ้าสุริยัน ศิษย์คนที่1ของเฮ้งเต็งเอี้ยงเป็นเจ้าสำนักต่อจากท่านเฮ้ง
  • คูชู่กี            ฉายา เชี่ยงชุนจื้อ - ผู้อมตะ มีพลังฝีมือสูงสุดในบรรดานักพรตทั้ง 7 คน
  • เฮ้งชู่อิด      ฉายา เง็กเอี้ยงจื้อ - อาทิตย์หยกในสำนักฝีมือเป็นรองเพียงคูชู่กี
  • ท่ำชู่ตวน     ฉายา เชี่ยงจินจื้อ - คนจริงยืนยาว
  • เล่าชูเหียน   ฉายา เชี่ยงแชจื้อ - คนจีรัง
  • ฮึ่งไต้ฮง      ฉายา ก้วงเล้งจื้อ - ผู้ไพศาล
  • ซุนปุกยี่       ฉายา เช็งเจ็งซั่วยิ้น - ผู้วิสุทธิ์พเนจร นักพรตหญิงแห่งชวนจิน

*****************************




กระบวนท่าของวิชาฝีมือสำนักช้วนจินก่า
  • ท่าปิดประตูใหญ่ (ไต้กวงมึ้งเส็ก) เป็นกระบวนท่าอันสูงส่งของสำนักชวนจินก่า ใช้โดยศิษย์สองคนของสำนักชวนจินก่าในตอนที่ก๊วยเจ๋งจะพาเอี้ยก้วยไปฝาก (1-160)

  • เท้านกเป็ดน้ำสัมพันธ์ (อวงเอียเลี่ยงฮ้วงคา) เป็นเพลงเท้าใช้โดยศิษย์สองคนของสำนักชวนจินก่าในตอนที่ก๊วยเจ๋งจะพาเอี้ยก้วยไปฝาก (1-161)

  • หยั่งทะเลพิฆาตมังกร (ท้ำไอ้ตู้เล้ง) เป็นวิชากระบี่ ใช้โดนนักพรตสันทัด ตอนสู้กับก๊วยเจ๋ง (1-161)

  • สายลบหอบใบไม้ (ขี่ฮวงเซ่าเฮียะ) เป็นวิชากระบี่ใช้โดยนักพรตผอมซูบ ตอนสู้กับก๊วยเจ๋ง (1-161)

  • แหวกบุปผาปาดหลิว (ฮุงฮวยฮุกลิ้ว) เป็นวิชากระบี่ ใช้โดนนักพรตสันทัด ตอนสู้กับก๊วยเจ๋ง (1-166)

  • ถอนตัวกลางกระแสเชี่ยว (กิบลิ้วย่งถ่อ) เต็กเช้งตกใช้ตอนที่โดนเอี้ยก้วยยกถังอุจาระทุ่มใส่ (1-200)

  • ลมหอบใบไม้ร่วง (ฮวงเซ่าเลาะเฮียะ) เป็นเพลงเท้า ใช้โดยนักพรตหนุ่มของชวนจินก่าในตอนที่ประลองกับเอี้ยก้วย (1-239)

  • เช็ดถูผงธุลี (ไกบั้วติ้งโกว) เป็นเพลงกระบี่ ใช้โดยนักพรตหนุ่มของชวนจินก่าในตอนที่ประลองกับเอี้ยก้วย (1-239)

  • ไม่ติดค้างไม่คงเหลือ (บ้อเคี่ยมบ้ออื้อ) ใช้โดยนักพรตหนุ่มของชวนจินก่าในตอนที่ประลองกับเอี้ยก้วย (1-239)

  • หัตถ์ประตูพยัคฆ์ (โฮ้วมึ้งชิ่ว) เป้นฝ่ามือที่เต็กเช้งตกใช้ฟาดใส่เอี้ยก้วย ในงานประลอง (1-243)

  • สะพานเหล็ก (ทิปังเกี้ย) ฮักไต้ธงใช้ท่านี้ตอนสู้กับเซียวเหล่งนึ่ง (1-277)

  • สามห่วงสัมพันธ์ (ซาเลี่ยงฮ้วง) เป็นท่าไม้ตายของสำนักชวนจินก่า เตียจี้เก่งใช้ตอนสู้กับอี่จี้เพ้ง (1-326)

  • หนึ่งลมปราณแปลงซำเช็ง (เจ่กคี่ฮ่วยซำเช็ง) เป็นเพลงกระบี่ขั้นสูงล้ำของสำนักชวนจินก่า โถมแทงออกสิบแปดกระบี่ ทุกกระบี่ล้วนแยกจากหนึ่ง* เป็นสอง ขณะแทงออกมีเพียงกระบวนท่าเดียว พอขยับข้อมือท่ากระบี่ก็แยกออกเป็นสอง เอี้ยก้วยใช้ตอนสู้กับ ขอทานชรา(1-488)

  • เข็มสะกดสุริยัน (เตี่ยเอี้ยงจำ) เยลู่ฉีใช้ตอนสู้กับ (1-554)

  • ดาวใหญ่เตะดารา (ขวยแชถักเต้าสี่) เอี้ยก้วยใช้เพื่อขวางห้าอัปลักษณ์ไม่ให้เข้ามาทำร้ายร่างของอั้งฉิกกง (1-577)

  • เหินข้ามภุเขาเทียนซัว (เทียนซัวปวยโต่ว) เป็นวิชาเท้าบทเรียนแรกของวิชาฝีมือสำนักชวรจินก่า เตียจี้เก่งใช้ตอนสู้กับเอี้ยก้วย (2-58)

  • ท่วงท่าถอยม้า (ถ่อเบ๊เส็ก) เป็นท่าหลบหลีกกระบวนท่าเหินข้ามภุเขาเทียนซัว (2-59)

  • วิชชูม่วงทะลวงเมฆ (จี่เตี๋ยงชวงฮุ้น) เป็นกระบวนท่าลึกล้ำ ฝ่ามือบรรลุถึงกลางคันพลันเปลี่ยนทิศทาง ความจริงฟาดใส่แก้มซ้าย ฝ่ามือกลับฟาดก้านคอด้านขวาของศัตรู (2-60)

  • ห่านป้าจู่โจมเฉียง (งังเกี้ยเซี้ยเค็ก) เอี้ยก้วยใช้ตอนต่อสู้กับกิมลุ้น 2-212

  • รุ้งขาวพาดผ่านฟ้า (แป๊ะฮ้งเก็งเทียน) เอี้ยก้วยใช้ตอนต่อสู้กับกิมลุ้น 2-212

  • ม้าย่ำบุปผาร่วง (เบ๊ฉกเลาะฮวย) เอี้ยก้วยใช้ตอนสู้กับกงซุนจี้ 2-453

  • เมฆขาวพ้นช่องเขา (แป๊ะฮุ้นชุกซิ่ว) เตียจี้เก่งใช้ท่านี้ กระโดดหลบจากการคร่ากุมของศิษย์สำนักชวนจินก่า (3-284)

  • มหาทีสู่บูรพา (ไต้กังตังขื่อ) เตียจี้เก่งใช้เพื่อจะปริดชีวิตเฮ้งจี่ทั่ง (3-284)

  • เจ็ดดาวร่วมชุมนุม (ฉิกแชจูหวย) เป็นกระบวนท่าที่ ห้านักพรตชวนจินก่าคิดค้นขึ้นเพื่อไว้รับมือเซียวเหล่งนึ่ง (3-311)
Credit ::  http://th.wikipedia.org/wiki/ช้วนจินก่า
 

Blogger news

Blogroll

About